จากรอยร้าวเล็กๆในบ้านคุณ
เคยพบเจอปัญหาแบบนี้กันบ้างหรือไม่คะ ?
บ้านแสนอบอุ่นที่คุณอยู่ร่วมกันกับครอบครัวของคุณอย่างมีความสุข อยู่มาวันหนึ่งก็มีรอยร้าวเล็กๆ บางๆ พาดเป็นแนวตามผนังปูนฉาบ แรกๆ คุณก็ไม่ได้รู้สึกตกอกตกใจอะไร เพราะคุณก็เคยรู้มาก่อนอยู่แล้วว่า การก่ออิฐฉาบปูนทั่วไป ถ้าช่างปูนฝีมือไม่ได้มาตรฐานตีน้ำขณะฉาบปูนไม่เพียงพอ ผนังปูนฉาบก็จะสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อปูนแข็งตัวแล้วก็จะเกิดรอยร้าวเล็กๆขึ้น ภาษาวิชาการเรียกว่าการแตกร้าว เนื่องจากการหดตัวของปูนฉาบ (Shrinkage Crack)
แต่พออยู่ไปนานเข้าๆ รอยร้าวก็เริ่มขยายตัวขึ้นจนมองเห็นได้ชัดเจน จากระยะไกลๆ แต่เมื่อพิจารณาโครงสร้างต่างๆ เช่น เสา คาน ก็ยังอยู่ดีเป็นปกติ
คุณก็คงจะเริ่มกังวลนิดๆแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่าจะเป็นอันตรายอะไร เพราะคุณเคยรู้มาว่า ถ้าผนังร้าวแต่โครงสร้างยังปกติก็ยังไม่นับว่าจะเป็นความเสียหายร้ายแรงอะไร แค่ซ่อมผนังก็คงจะเพียงพอแล้ว
แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นค่ะ ผนังที่ซ่อมแล้วเกิดแตกร้าวขึ้นมาใหม่ คราวนี้สังเกตเห็นว่าแตกร้าวเป็นแนวทแยง จากมุมหนึ่งไปยังอีกมุมหนึ่งของผนัง แถมเวลาไปสังเกตดีๆ ในตัวคานก็พบรอยร้าวอีกด้วย คราวนี้ก็ชัดเลย บ้านของคุณมีปัญหาแล้วล่ะ ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ก็คงจะอยู่อาศัยต่อไปอย่างไม่มีความสุขแน่นอน
ทั้งหลายทั้งปวงที่พูดมาทั้งหมด ก็เพื่อจะบอกว่าอาการที่เกิดขึ้นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บ้านของคุณมีปัญหาที่ตัวฐานราก คือมีฐานรากตัวใดตัวหนึ่งรับน้ำหนักไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้ หรือมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน เมื่อรับน้ำหนักของตัวอาคารเองหรือที่ภาษาวิศวกรรมเรียกว่าน้ำหนักบรรทุกคงที่ (Dead load) รวมกับน้ำหนักข้าวของ ตู้ โต๊ะ เตียง เฟอร์นิเจอร์ น้ำหนักของผู้ที่อยู่อาศัย ฯลฯ ซึ่งชาวช่างก็จะเรียกว่าน้ำหนักบรรทุกจร (Live load) เป็นระยะเวลานานๆ ก็จะเกิดการทรุดตัว แต่เพราะมีความสามารถในการรับน้ำหนักต่างกัน การทรุดตัวก็จะต่างกันด้วย
ทำให้ส่วนต่างๆ ของอาคารเกิดการแตกร้าว ซึ่งผนังเป็นส่วนทีอ่อนแอที่สุด ก็จะแตกร้าวก่อน ตามมาตัวคานและส่วนอื่นๆ ซึ่งในช่วงแรกๆ การทรุดตัวยังอยู่ในช่วงที่โครงสร้างยังให้ตัวได้ (Elastic) ก็จะยังไม่ปรากฏรอยร้าวบนโครงสร้างให้เห็น แต่ถ้าการทรุดตัวต่างระดับยังดำเนินต่อไป คราวนี้รอยร้าวก็จะเกิดขึ้นกับโครงสร้างซึ่งถ้าไม่ดำเนินการแก้ไข โครงสร้างก็จะเสียหายจนถึงขั้นวิบัติ จนไม่สามารถอยู่อาศัยได้
อย่างปลอดภัยอีกต่อไปวิธีการแก้ไขก็ตรงไปตรงมา ตรงไหนมีปัญหาก็แก้ไขตรงนั้น ฐานรากไหนไม่สามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้ ก็ต้องเสริมฐานราก ซึ่งกรรมวิธีการดำเนินงาน ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ทำเองไม่ได้ค่ะซึ่งในปัจจุบันก็มีอยู่หลายราย ถูกแพงก็แล้วแต่ความหนักเบาของอาการเมื่อปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว อาคารหรือบ้านนั้นก็สามารถพักอาศัยได้อย่างปลอดภัยไร้กังวลค่ะ
